THAI EU Law Study

สหภาพยุโรปคือกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่มีแนวคิดเดียวกัน และใช้ความพยายามและทรัพยากรร่วมกันในการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในยุโรป ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปตัดสินใจร่วมมือกันภายใต้สนธิสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางประการ อันได้แก่ การส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม การแสดงบทบาทของสหภาพยุโรปในเวทีโลก และการพัฒนาเขตแห่งเสรีภาพ ความปลอดภัย และความยุติธรรม

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สมาชิกของสหภาพยุโรปได้ก่อตั้งสถาบันต่างๆ ที่มีอำนาจเหนือรัฐภายใต้การควบคุมร่วมกัน สถาบันดังกล่าวมีหน้าที่ดูแลงานที่ประเทศสมาชิกทำร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแยกกันทำ

สหภาพยุโรปประกอบด้วยประเทศสมาชิกกี่ประเทศ?

ปัจจุบันสหภาพยุโรปมีสมาชิก 25 ประเทศ ได้แก่ เบลเยี่ยม ไซปรัส สาธารณรัฐเชก เดนมาร์ก เยอรมนี กรีซ สเปน เอสโตเนีย ฝรั่งเศส ฮังการี ไอร์แลนด์ อิตาลี แลตเวีย ลิธัวเนีย ลักเซ็มเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวะเกีย สโลวีเนีย ฟินแลนด์ สวีเดน และสหราชอาณาจักร

เว็บไซต์หน่วยงานรัฐบาลของประเทศในยุโรป: http://europa.eu.int/abc/governments/index_en.htm#members

สหภาพยุโรปไม่ได้แทนที่ประเทศต่างๆที่ดำรงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสถานะมากกว่าองค์กรระหว่างประเทศ จึงอาจกล่าวได้ว่าสหภาพยุโรปเป็นองค์กรอันเป็นเอกลักษณ์ที่สมาชิกได้ร่วมกันจัดตั้งสถาบันต่างๆ ขึ้น และได้มอบอำนาจอธิปไตยบางส่วนให้แก่สถาบันนั้น เพื่อให้มีการตัดสินใจในเรื่องที่มีผลประโยชน์ร่วมกันได้ตามแบบประชาธิปไตยในระดับยุโรป นโยบายและกฎหมายทั่วไปของสหภาพยุโรปเป็นผลจากการทำงานร่วมกันของสามสถาบันหลักอันได้แก่: คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป รัฐสภายุโรป และคณะกรรมาธิการยุโรป โดยสามเหลี่ยมสถาบันนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันที่มีความสำคัญอื่นๆอันได้แก่ ศาลยุติธรรม ศาลตรวจสอบการเงินและบัญชียุโรป และธนาคารกลางแห่งยุโรป

สนธิสัญญาฉบับต่างๆ ของสหภาพยุโรปคืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญ?

สนธิสัญญาซึ่งมีผลผูกพันทางกฎหมายจำนวนมากเปรียบเสมือนหัวใจของสหภาพยุโรป เพราะสนธิสัญญาได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกถ่ายโอนอำนาจอธิปไตยบางส่วนของตนให้แก่สถาบันร่วมต่างๆที่ปกป้องทั้งผลประโยชน์ของแต่ละประเทศสมาชิกและของยุโรปโดยรวม

สนธิสัญญาเหล่านี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นรากฐานในการก่อตั้งสหภาพยุโรป และให้รายละเอียดถึงวิธีการและขอบเขตงานที่มีการบูรณาการของประเทศสมาชิก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสนธิสัญญาเหล่านี้ โปรดดูที่ http://europa.eu.int/abc/treaties_en.htm

หากมีสมาชิกทั้งหมด 25 ประเทศ ทำไมธงประจำสหภาพยุโรปจึงมีดาวเพียง 12 ดวง?

มีดาว 12 ดวงเพราะเลข 12 เป็นสัญลักษณ์ของความครบถ้วนสมบูรณ์ และความเป็นเอกภาพ จำนวนดาวบนธงจึงคงเดิมแม้จะมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ธงไม่ใช่แค่เพียงสัญลักษณ์ของสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเอกลักษณ์และความเป็นเอกภาพของยุโรป ดาวสีทองที่เรียงกันเป็นรูปวงกลมยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและความกลมเกลียวกันของประชาชนยุโรป

ภาษาราชการของสหภาพยุโรปคือภาษาใดบ้าง?

สหภาพยุโรปมีภาษาทางราชการ 20 ภาษา ได้แก่ ภาษาสเปน เดนมาร์ก เยอรมัน กรีก อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ดัทช์ โปรตุเกส ฟินนิช สวีเดน เช็ก เอสโตเนีย แลตเวีย ลิธัวเนีย ฮังการี มอลตา โปแลนด์ สโลวะเกีย และสโลวีเนีย

นอกจากนี้ยังมีภาษาท้องถิ่นอีกหลายภาษาที่ได้รับการยอมรับเช่น ภาษาคาตาลัน

วันที่ 9 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันฉลองวันยุโรป (Europe Day) มีความสำคัญอย่างไร?

วันที่ 9 พฤษภาคม 1950 ถือเป็นก้าวแรกของการบูรณาการยุโรปอย่างแท้จริง โดยในวันนี้ ที่กรุงปารีส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของประเทศฝรั่งเศส นายโรเบิร์ต ชูมาน ได้เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรยุโรปที่มีอำนาจเหนือรัฐ ซึ่งถือเป็นการเริ่มยุคสมัยแห่งการก่อตัวของยุโรปขึ้นมาใหม่ การประชุมผู้นำสหภาพยุโรปที่กรุงมิลานในปี 1985 จึงได้ตัดสินใจให้มีการเฉลิมฉลองวันนี้

เกี่ยวกับสถาบันของสหภาพยุโรป........

สถาบันของสหภาพยุโรปมีอะไรบ้าง?

สหภาพยุโรปสถาบันหลัก 5 สถาบันคือ รัฐสภายุโรป คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป ศาลยุติธรรม และศาลตรวจสอบการเงินและบัญชียุโรป นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่สำคัญอีก 5 หน่วยงาน ได้แก่ คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการภูมิภาค ธนาคารกลางแห่งยุโรป ผู้ตรวจการยุโรป และธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป

สหภาพยุโรป (European Union) คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) กลุ่มประชาคมยุโรป (European Communities) และประชาคมยุโรป (European Community) มีความแตกต่างกันอย่างไร?

เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่าง เราจำเป็นต้องมองย้อนไปถึงประวัติความเป็นมาของสหภาพยุโรปในปัจจุบันสหภาพยุโรปในปัจจุบันประกอบด้วยประเทศสมาชิก 25 ประเทศ และสถาบันร่วมต่างๆ โดยความสัมพันธ์ระหว่างกันตั้งอยู่บนสนธิสัญญาเป็นจำนวนมาก

สนธิสัญญาปารีส (Treaty of Paris) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 1952 ได้กำหนดให้มีการควบคุมการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าร่วมกันของประเทศสมาชิก 6 ประเทศในขณะนั้นภายใต้องค์กรที่ตั้งขึ้นใหม่คือ ประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรป (European Coal and Steel Community – ECSC)

หกปีต่อมา สนธิสัญญาแห่งโรม (Treaties of Rome) ได้สถาปนาองค์กรเพิ่มขึ้นสององค์กร ได้แก่ ประชาคมเศรษฐกิจ
ยุโรป (European Economic Community – EEC) และประชาคมพลังงานปรมาณูแห่งยุโรป (European Atomic Energy Community – Euratom)

ทั้งสามองค์กรเป็นที่รู้จักกันในนามกลุ่มประชาคมยุโรป (European Communities)

ในปี 1967 ได้มีการรวมฝ่ายบริหารและฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินใจของประชาคมทั้งสามเพื่อจัดตั้งเป็นประชาคมยุโรป (European Community – EC) โดยให้มีหน่วยงานบริหารเพียงหน่วยงานเดียวคือ คณะกรรมาธิการกลุ่มประชาคมยุโรป (Commission of the European Communities)

สนธิสัญญามาสทริชท์ (Maastricht Treaty) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 1993 กำหนดให้มีการจัดตั้งสหภาพยุโรป (European Union – EU) และใช้เป็นคำเรียกแทนประชาคมยุโรปนับแต่นั้นมา

สหภาพยุโรปหมายถึงประชาคมยุโรปและส่วนที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 2 ส่วนจากสนธิสัญญามาสทริชท์ ได้แก่ นโยบายร่วมด้านการต่างประเทศและความมั่นคง (Common Foreign and Security Policy) และความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมและกิจการภายใน

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังแสดงถึงอาณาเขตของประเทศสมาชิก 25 ประเทศ และเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองต่างๆ (เช่น พลเมืองสหภาพยุโรป และความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพ ยุโรปและญี่ปุ่น)

ชื่อ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ที่เริ่มใช้กันในปี 1993 เป็นชื่อเรียกสั้นๆ ของคณะกรรมาธิการกลุ่มประชาคมยุโรป

อย่างไรก็ตาม ประชาคมยุโรปเป็นส่วนเดียวในสหภาพยุโรปที่มี “สถานภาพทางกฎหมาย” (Legal Personality) จึงยังคงใช้กันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอกสารทางกฎหมาย

คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ทำหน้าที่อะไร?

คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นฝ่ายบริหารหรือฝ่าย “บริการสาธารณะ” ของสหภาพยุโรป

คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นพลังเคลื่อนในระบบสถาบันของสหภาพยุโรป เป็นเพียงสถาบันเดียวที่มีอำนาจในการ เสนอกฎหมาย และรับผิดชอบดำเนินงานตามกฎหมายของยุโรป (Directive, Regulation, Decision) ดูแลงบประมาณ และโครงการต่างๆ ที่เห็นชอบโดยรัฐสภายุโรปและคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นเสมือนผู้ปกป้องสนธิสัญญาและทำงานร่วมกับศาลสถิตยุติธรรม (Court of Justice) เพื่อให้มีการใช้กฎหมายสหภาพยุโรปอย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปยังเป็นตัวแทนของสหภาพยุโรปในเวทีโลก และมีหน้าที่เจรจาความตกลงระหว่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องการค้าและความร่วมมือ

รัฐสภายุโรป (European Parliament) มีบทบาทอะไร และแตกต่างจากรัฐสภาแห่งชาติอย่างไร?

รัฐสภายุโรปเป็นรัฐสภานานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำหน้าที่คล้ายกับรัฐสภาอื่น คือ ให้ความเห็นชอบกฎหมายที่ดี รวมทั้งตรวจสอบและควบคุมการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร อย่างไรก็ตาม รัฐสภายุโรปไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือนกับสมัชชาแห่งชาติหรือรัฐสภาของประเทศสมาชิกทุกประการ เนื่องจากสหภาพยุโรปไม่มีรัฐบาลให้รัฐสภาจัดตั้งหรือดูแล รัฐสภายุโรปจึงเพียงทำงานร่วมกับคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปในการอนุมัติกฎหมาย ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือรัฐสภายุโรปได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทุกห้าปีมาตั้งแต่ปี 1979

คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) คืออะไร?

คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป เป็นสถาบันที่มีอำนาจในการตัดสินใจหลักของสหภาพยุโรป ประกอบด้วยผู้แทนระดับรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกที่มาประชุมกันเป็นประจำ โดยจะประชุมในกลุ่มที่ต่างกันไปขึ้นอยู่กับเนื้อหาของการประชุม เช่น การต่างประเทศ การเงิน การศึกษา โทรคมนาคม เป็นต้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปยุโรป โปรดดูที่ http://ue.eu.int/en/summ.htm

Presidency หมายถึงประเทศที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งจะหมุนเวียนกันไปทุกหกเดือนระหว่างประเทศสมาชิก ประธานคณะมนตรีมีบทบาทสำคัญในการจัดระบบการทำงานของสถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นส่วนผลักดันการตัดสินใจทางการเมืองและออกกฎหมาย ประธานคณะมนตรีจะเป็นผู้รับผิดชอบการจัดประชุมทั้งหมดและเป็นประธานในการประชุม พร้อมทั้งพยายามหาวิธีประนีประนอมเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรค

ตารางการดำรงตำแหน่ง Presidency มีดังนี้

· ไอร์แลนด์ (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2004)

· เนเธอร์แลนด์ (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2004)

· ลักเซ็มเบิร์ก (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2005)

· สหราชอาณาจักร (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2005)

· ออสเตรีย (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2006)

· ฟินแลนด์ (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2006)

คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งยุโรป (Economic Commission for Europe) และ คณะมนตรีแห่งยุโรป (Council of Europe) เกี่ยวข้องกับสหภาพยุโรปหรือไม่?

ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งยุโรปเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ โดยเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการระดับภูมิภาคของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Committee) ขององค์การสหประชาชาติ (เช่นเดียวกับ ESCAP) ส่วนคณะมนตรีแห่งยุโรปเป็นอีกองค์กรหนึ่งซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี 1949 เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพมากขึ้นระหว่างสมาชิก สนับสนุนความก้าวหน้าทางสังคม และหลักการประชาธิปไตยระบบรัฐสภา การเคารพสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย ปัจจุบันจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีแห่งยุโรปเพิ่มขึ้นจาก 10 ประเทศเป็น 40 ประเทศ รวมทั้งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 25 ประเทศและกลุ่มประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก

EU Troika เป็นตัวแทนของสหภาพยุโรปในเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับประเทศภายนอก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางการเมืองกับประเทศที่ไม่ใช่สมาชิก ตัวอย่างเช่น ในเรื่องที่สหภาพยุโรปต้องมีส่วนร่วมทั้งหมด ไม่ใช่ประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือสถาบันใดสถาบันหนึ่งจะมีการจัดตั้ง Troika ขึ้น ประกอบไปด้วยผู้แทนจากประเทศที่ดำรงตำแหน่ง Presidency ของสหภาพยุโรป ผู้แทนจากคณะกรรมาธิการยุโรป ผู้แทนจากเลขาธิการคณะมนตรีในฐานะผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายร่วมต่างประเทศและความมั่นคง (High Representative for the Common Foreign and Security Policy) และประเทศสมาชิกที่จะเข้าดำรงตำแหน่ง Presidency ต่อไป

รูปแบบของ Troika ในปัจจุบันถูกกำหนดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1999 ก่อนหน้านี้ Troika ประกอบด้วยประเทศสมาชิกที่ดำรงตำแหน่ง
Presidency ประเทศสมาชิกที่เคยดำรงตำแหน่ง Presidency เมื่อหกเดือนก่อนหน้า ประเทศสมาชิกที่จะดำรงตำแหน่ง Presidency ในอีกหกเดือนต่อไป และคณะกรรมาธิการยุโรป

คณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรป (Delegation of the European Commission) ทำหน้าที่อะไร?

ในเริ่มแรก ความรับผิดชอบด้านกิจการภายนอกของคณะกรรมาธิการยุโรป คือการทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการเจรจาการค้าและดำเนินงานโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาต่างๆ ต่อมางานด้านกิจการภายนอกโดยมีคณะผู้แทนและสำนักงานผู้แทนต่างๆเป็นผู้รับผิดชอบได้ขยายขอบเขตครอบคลุมผลประโยชน์ของยุโรปในด้านอื่นๆอีกด้วย โดยเฉพาะนโยบายร่วมต่างประเทศและความมั่นคง (Common Foreign and Security Policy – CFSP) ส่งผลให้สำนักงานผู้แทนเหล่านี้มีภาระงานที่หลากหลายมากขึ้น

คณะผู้แทนและกลุ่มผู้แทนทั้ง 128 ที่ดูแลเกี่ยวกับกิจการภายนอกของคณะกรรมาธิการยุโรปและสหภาพยุโรป มีหน้าที่ดังต่อไปนี้:

· เผยแพร่ ชี้แจง และปฏิบัติตามนโยบายของสหภาพยุโรป

· วิเคราะห์นโยบายของประเทศที่ได้รับแต่งตั้งให้ทำงาน

· ดำเนินการเจรจาต่างๆ ตามอำนาจที่ได้รับมอบหมาย

· บริหารอำนาจที่ได้จากประชาคมยุโรปในประเทศที่สามโดยส่งเสริมผลประโยชน์ของยุโรปตามนโยบายของ ประชาคม (เช่น การค้า การเกษตร และการประมง)

· มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา ซึ่งกำลังจะขยายตัวอย่างมากสืบเนื่องจาก
นโยบายกระจายอำนาจอันเป็นส่วนสำคัญของการปฏิรูปการให้ความช่วยเหลือแก่ภายนอกของคณะกรรมธิการยุโรป

นอกจากคณะผู้แทนจะมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการกำหนดโครงการแล้ว ยังเข้าไปบริหารโครงการในพื้นที่โดยตรงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ คณะผู้แทนยังมีบทบาททางด้านนโยบายร่วมต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรปมากขึ้น โดยทำงานร่วมกับสถานทูตของประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเทศที่ดำรงตำแหน่ง Presidency เพื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆร่วมกัน มีส่วนร่วมในงานของ Troika และการดำเนินงานอื่นๆ อีกทั้งให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันและผู้ปฏิบัติงานอื่นๆ ของสหภาพยุโรป รวมทั้งผู้แทนระดับสูง/เลขาธิการคณะมนตรี และรัฐสภายุโรป

ในเมื่อประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศแสดงบทบาทในภูมิภาคผ่านสถานทูตของแต่ละประเทศแล้ว ทำไมจึงจำเป็นต้องมีคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปอีก?

คณะผู้แทนของประเทศสมาชิกปฏิบัติงานทางการทูตทั้งหมดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศตน อันได้แก่ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ไปจนถึงการส่งเสริมการค้าและการเข้าประเทศ (การออกวีซ่า) ในขณะที่คณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปไม่มีบทบาทโดยตรงในเรื่องเหล่านี้ แต่จะปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูแลโครงการต่างๆ ที่ได้รับเงินช่วยเหลือหรือการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรปในภูมิภาคนั้น และปฏิบัติงานที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับมอบอำนาจ เช่น เรื่องเกี่ยวกับ WTO และการเข้าสู่ตลาด เป็นต้น

หากข้าพเจ้าวางแผนที่จะเดินทางไปหลายประเทศในยุโรป ข้าพเจ้าต้องขอวีซ่าจากสถานทูตของแต่ละประเทศที่ต้องการไปหรือไม่?

การขอวีซ่าเพียงครั้งเดียวอาจเพียงพอแล้ว ข้อตกลงเชนเกน ได้กำจัดการควบคุมที่พรมแดนภายใน พร้อมกับให้มีการควบคุมแนวชายแดนภายนอกของสหภาพยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพและให้มีนโยบายวีซ่าร่วมกัน หากคุณมีวีซ่าจากประเทศสมาชิกเชนเกน คุณสามารถเดินทางไปประเทศสมาชิกเชนเกนอื่นๆได้โดยอัตโนมัติ

ประเทศสมาชิกเดิมของสหภาพยุโรปทั้งหมด ยกเว้นอังกฤษและไอร์แลนด์ เป็นสมาชิกข้อตกลงเชนเกน นอกจากนี้นอร์เวย์และไอซ์แลนด์ก็เข้าร่วมเป็นสมาชิกเชนเกน

เงินยูโรคืออะไรและฉันจะได้รับประโยชน์จากเงินยูโรอย่างไรบ้าง?

ยูโรเป็นชื่อเรียกเงินสกุลเดียวของยุโรป สัญลักษณ์ของเงินยูโรคือ € เดือนมกราคมปี 2002 เงินยูโรได้มาแทนที่สกุลเงินประจำชาติของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 12 ประเทศอันได้แก่ ออสเตรีย เบลเยี่ยม ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอแลนด์ โปรตุเกส และสเปน

เงินสกุลร่วมช่วยให้สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายขึ้น ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจของยุโรปมีเสถียรภาพกระตุ้นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

การขอรับทุนเพื่อศึกษาต่อในสหภาพยุโรปทำได้อย่างไร?

สหภาพยุโรปมีมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกหลายแห่ง เมื่อไม่นานมานี้ สหภาพยุโรปได้เริ่มโครงการทุนการศึกษาชื่อ Erasmus Mundus ที่นักศึกษาและสถาบันต่างๆทั่วโลกจะได้รับประโยชน์ โดยท่านสามารถดูรายละเอียดได้ที่:
http://europa.eu.int/comm/education/programmes/mundus/index_en.html นอกจากนี้ สถานทูตหรือสถาบันวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาในยุโรป รวมทั้งอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษาต่างๆ

ข้าพเจ้าสามารถหาข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับสหภาพยุโรปได้จากที่ใด?

ข้อมูลทางสถิติล่าสุดและครบถ้วนที่สุดเกี่ยวกับสหภาพยุโรปและยูโรโซน (Euro-Zone) สามารถหาได้จากเว็บไซต์ของ Eurostat ที่ http://europa.eu.int/comm/eurostat/ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลทางสถิติอยู่ที่ศูนย์ข้อมูลของสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรป

ข้าพเจ้าสามารถหาต้นฉบับกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของสหภาพยุโรปได้จากที่ใด?

กฎหมายของสหภาพยุโรปทั้งหมดสามารถหาได้จากเว็บไซต์ของ EUR-LEX http://europa.eu.int/eur-lex และสามารถติดต่อหรือไปที่ศูนย์ข้อมูลสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อขอข้อมูลกฎหมายสหภาพยุโรปฉบับสมบูรณ์ในรูปแบบของวารสารทางการ

ข้าพเจ้าสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทในยุโรปหรือบริษัทยุโรปในภูมิภาคนี้ได้จากที่ใด?

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทในยุโรปสามารถหาได้จากหลายเว็บไซต์ เช่น www.europages.com ของ Europages หรือติดต่อฝ่ายการพาณิชย์ของสถานทูตของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทยุโรปในเอเซีย กรุณาติดต่อหอการค้าของแต่ละประเทศสมาชิก